ก.แรงงาน ออก กฎหมายลูกสนับสนุนการคุ้มครองสิทธิ์ แรงงานทางทะเล

ก.แรงงาน ออก กฎหมายลูกสนับสนุนการคุ้มครองสิทธิ์ แรงงานทางทะเล

กระทรวงแรงงาน ทำการออกกฎกระทรวงเพื่อสนับสนุนการคุ้มครองสิทธิ์ และเป็นหลักเกณฑ์ระงับข้อพิพาทสำหรับ แรงงานทางทะเล ภายในปี 2564 กระทรวงแรงงาน ออกกฎกระทรวง การระงับข้อพิพาทแรงงานทางทะเล การปิดงาน การนัดหยุดงานและการกระทำอันไม่เป็นธรรมที่เกี่ยวข้องกับคนประจำเรือและเจ้าของเรือพ.ศ. 2564 เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ แรงงานทางทะเล ไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน 

กล่าวว่า กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้กำชับให้กระทรวงแรงงานให้คุ้มครองดูแลให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ใช้แรงงานไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิ ไม่ให้มีการใช้แรงงานบังคับ มีเสรีภาพในการเจรจาต่อรอง มีคุณภาพชีวิตที่ดี ตนจึงได้ลงนามออกกฎกระทรวงการระงับข้อพิพาทแรงงานทางทะเล การปิดงาน การนัดหยุดงานและการกระทำอันไม่เป็นธรรมที่เกี่ยวข้องกับคนประจำเรือและเจ้าของเรือพ.ศ. 2564 ฉบับลงวันที่ 17 กันยายน 2564 และราชกิจจานุเบกษา ประกาศเผยแพร่ เล่ม 138 ตอนที่ 67 ก ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2564 กฎกระทรวงดังกล่าวจึงมีผลบังคับใช้ สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทแรงงานทางทะเล การปิดงาน และการนัดหยุดงาน การกระทำอันไม่เป็นธรรม และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนประจำเรือและเจ้าของเรือ ซึ่งกำหนดให้มีขั้นตอนของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานทางทะเล การแจ้งข้อเรียกร้อง การตั้งผู้ชี้ขาดข้อพิพาท และมีคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด ทั้งนี้ยังได้กำหนดห้ามเจ้าของเรือปิดงานหรือคนประจำเรือนัดหยุดงานในระหว่างที่มีการเดินเรือทางทะเล อีกทั้งคนประจำเรือมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการกระทำอันไม่เป็นธรรมได้

นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเพิ่มเติมในรายละเอียดของกฎกระทรวงดังกล่าวว่า ข้อพิพาทแรงงานทางทะเลจะเกิดขึ้นเมื่อมีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ที่ตกลงกันไม่ได้ระหว่างเจ้าของเรือกับคนประจำเรือ และไม่มีการเจรจากันหรือเจรจากันแล้วแต่ตกลงกันไม่ได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้ฝ่ายแจ้งข้อเรียกร้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการไกล่เกลี่ยภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งข้อเรียกร้อง หากยังไม่สามารถตกลงกันได้ฝ่ายแจ้งข้อเรียกร้องและฝ่ายรับข้อเรียกร้องอาจตกลงกันตั้งผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานทางทะเลพิจารณาข้อพิพาทฯ นั้น โดยต้องส่งคำชี้ขาดข้อพิพาทฯ ให้ฝ่ายแจ้งข้อเรียกร้องและฝ่ายรับข้อเรียกร้องทราบภายใน 3 วัน พร้อมทั้งแจ้ง คำชี้ขาดข้อพิพาทฯ ต่ออธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้ทำคำชี้ขาดหรือเสนอข้อพิพาทฯ ให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด ซึ่งจะพิจารณาชี้ขาดภายใน 90 วัน โดยคำชี้ขาดของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด มีผลใช้บังคับตามระยะเวลาที่คณะกรรมการกำหนด และให้ฝ่ายแจ้งข้อเรียกร้องและฝ่ายรับข้อเรียกร้องต้องปฏิบัติตาม หรือจะปิดงานหรือนัดหยุดงานตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยห้ามเจ้าของเรือปิดงานหรือคนประจำเรือนัดหยุดงานในระหว่างที่มีการเดินเรือทางทะเล และการปิดงานหรือการนัดหยุดงาน ให้เจ้าของเรือซึ่งประสงค์จะปิดงานหรือคนประจำเรือซึ่งประสงค์จะนัดหยุดงาน แจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่และอีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนการปิดงานหรือการนัดหยุดงาน ในเรื่องของการพิจารณาการกระทำอันไม่เป็นธรรม กรณีเจ้าของเรือกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 94 ให้คนประจำเรือผู้เสียหายเนื่องจากการฝ่าฝืนดังกล่าวมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีการฝ่าฝืนและเมื่อได้รับคำร้องให้คณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดและออกคำสั่งภายใน 90 วันนับแต่วันที่ ได้รับคำร้อง กรณีที่คนประจำเรือหรือเจ้าของเรือไม่เห็นด้วยกับคำสั่งมีสิทธิที่จะนำคดีไปสู่ศาลแรงงานภายใน 30 วัน และหากไม่ได้นำคดีไปสู่ศาลแรงงานภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทราบคำสั่ง ให้คำสั่งนั้นเป็นที่สุด

การแจ้งข้อพิพาทแรงงานทางทะเลผู้แจ้งสามารถยื่นคำร้องโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือสามารถยื่นด้วยตนเองได้ที่ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด โดยหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1546 หรือ 1506 กด 3 อธิบดี กสร. กล่าวทิ้งท้าย

ตร. ฝากขัง ‘เบนจา อะปัญ’ คดี ม.112 กรณีชุมนุม 10 สิงหา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ เตรียมนำตัว เบนจา อะปัญ ฝากขัง ตามข้อกล่าวหา ม.112 จากการณีชุมนุม 10 สิงหาคม นายบุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า ศาลได้พิจารณารับคำร้องขอฝากขัง น.ส.เบนจา อะปัญ หลังถูกกล่าวหาในข้อหา ม.112 ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค

จากกรณีที่ น.ส.เบนจา อ่านแถลงการณ์แนวร่วมธรรมศาสตร์และชุมนุม ฉบับที่ 2 หน้าอาคารซิโนทัยทาวเวอร์ ถนนอโศกมนตรี เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา

โดย นายบุญเลิศ กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ไม่ออกหมายเรียก เบนจา มาก่อนในกรณีนี้ ทั้งที่บุคคลอื่นที่มีข้อกล่าวหาจากเหตุเดียวกันได้รับหมายเรียก กลับเป็นการออกหมายจับ และจับกุมด้วยเหตุว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ซึ่งเบนจายังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังปรากฏตัวร่วมกิจกรรม เข้าสอบของมหาวิทยาลัยอยู่ ไม่มีพฤติกรรมหลบหนีตามที่ถูกกล่าวหา

เบื้องต้นในวันนี้ทนายความไม่ได้คัดค้านคำขอฝากขังของพนักงานสอบสวน เพราะต้องการเร่งรัดเวลา มาขอประกันตัวในชั้นศาลให้แล้วเสร็จในบ่ายวันนี้ เบื้องต้นจะใช้หลักทรัพย์ของกองทุนราษฎรประสงค์ ในการเป็นหลักประกัน

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจในนำตัว น.ส.เบนจา อะปัญ มาส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังศาลรับคำร้องขอฝากขัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอปล่อยตัวชั่วคราว

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป