โฆษก ตร. เตือนผู้มีพฤติกรรม การคุกคามทางเพศ มีความผิดตามกฎหมาย อัตราโทษสูง

โฆษก ตร. เตือนผู้มีพฤติกรรม การคุกคามทางเพศ มีความผิดตามกฎหมาย อัตราโทษสูง

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผย การคุกคามทางเพศ หรือ Sexual Harassment มีให้เห็นบ่อยครั้ง เตือนผิดกฎหมาย อัตราโทษสูง 27 ต.ค.64 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในปัจจุบันมีการปรากฏข่าว การคุกคามทางเพศ หรือ Sexual Harassment ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นด้วยคำพูด ด้วยท่าทาง สัมผัสทางร่างกาย โดยการกระทำต่าง ๆ นั้น อาจเกิดขึ้นได้ในทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือ โรงเรียน ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดอันตรายแก่ร่างกายและกระทบกระเทือนจิตใจของผู้เสียหายได้

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ กล่าวต่อว่า Sexual Harassment หรือ การคุกคามทางเพศ 

มีทั้งทางตรงและทางอ้อม การกระทำที่เป็นการคุกคามทางเพศ เช่น การพูดจาลวนลามผู้หญิง หรือชาย การแอบสัมผัสร่างกาย โดยที่ผู้ถูกสัมผัสไม่ยินยอม หรือการแสดงความคิดเห็นรวมถึงการสนทนาในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ หรือ การแอบถ่ายคลิบผู้อื่นไปใช้ในทางเสียหาย จึงอยากเตือนไปยังผู้ที่มีพฤติกรรมกระทำการคุกคามทางเพศผู้อื่นนั้น อาจมีความผิดตามกฎหมายและมีอัตราโทษสูง

ประมวลกฎหมายอาญา

– มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

– มาตรา 279 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

– ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำแก่”เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

– ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ผู้กระทำได้กระทำโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้เด็กนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

– ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสาม เป็นการกระทำโดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศหรือทวารหนักของเด็กนั้น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 400,000 บาท

– ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคสี่ เป็นการกระทำแก่”เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี” ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 140,000 บาทถึง 400,000บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต

– ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคสี่หรือวรรคห้า ได้กระทำโดยทำให้ผู้ถูกกระทำเข้าใจว่าผู้กระทำมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาทถึง 400,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต

– ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคสี่หรือวรรคห้า ได้กระทำโดยมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิงหรือกระทำกับเด็กชายในลักษณะเดียวกัน ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต

‘บิ๊กก้อง’แจงปมสำนักข่าวต่างประเทศตีข่าวไทยแหล่งถุงมือยางไม่ได้มาตรฐาน

บิ๊กก้อง ผบช.ก. แจงปม ถุงมือยาง ไม่ได้มาตรฐานที่สื่อต่างประเทศตีข่าวถูกส่งมาจากประเทศไทย ทราบตัวผู้ต้องหาเป็นชาวมะกันมีคดีอุ้มหนีไปให้ข่าว CNN พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ระบุถึงกรณีที่ สำนักข่าว CNN เผยแพร่ข่าวเรื่อง ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตถุงมือยางไม่ได้มาตราฐานไปอเมริกา เมื่อวันที่ 27 ต.ค.64 ที่ห้องประชุม กก.2 บก.ปคบ.อาคารบี ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ

โดย พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า จากการที่กองบัญชาการสอบสวกลางได้รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่มีการฉ้อโกงในสถานการณ์การแผร่ระบาดโควิด19 พบว่ากรณีที่เป็นข่าวนั้น สาเหตุมาจากชาวอเมริกาที่ให้ข่าวกับ CNN ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีอุ้มทวงหนี้ชาวไต้หวันในพื้นที่ทองหล่อ ซึ่งชาวไต้หวันที่ถูกอุ้มเป็นเจ้าของบริษัทผลิตส่งถุงมือยางที่ส่งขายในอเมริกาที่ไม่ได้มาตราฐาน

ทางตำรวจสอบสวนกลาง ได้แยกเรื่องนี้เป็น 2 คดี คดีแรก คือคดีอุ้มทวงหนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการของ สน.ทองหล่อ ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นชาวต่างชาติได้บางส่วน ซึ่งมีผู้ต้องหาชาวอเมริกันรายหนึ่งหลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งอาจเป็นคนเดียวกันที่นำเรื่องไปแจ้ง CNN

ส่วนอีกคดี คือ คดีฉ้อโกงการซื้อถุงมือยางในประเทศไทย ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวอเมริกัน เป็นผู้เสียหาย กรณีที่ซื้อถุงมือยางไม่ได้มาตราฐาน ตำรวจเคยแนะนำให้ไปแจ้งความ แต่ก็ไม่พบว่า มาแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดี ซึ่งหากผู้เสียหายต้องการดำเนินคดี ก็สามารถกลับมาดำเนินการแจ้งความได้

มาตรา 397 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป